CHULA ENGINEERING
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้รับการจัดอันดับมหาวิทยาลัยชั้นนำของประเทศไทยเป็นปีที่ 7 ติดต่อกันโดย QS World University Rankings 2020 ในขณะที่ยังคงความเป็นมหาวิทยาลัยชั้นนำ 50 อันดับแรกในเอเชีย
คณะวิศวกรรมศาสตร์เป็นคณะวิศวกรรมที่เก่าแก่ที่สุดในประเทศไทย ได้รับการจัดอันดับให้เป็นคณะวิศวกรรมที่ดีที่สุดในประเทศไทยและเป็นหนึ่งในคณะชั้นนำในเอเชีย คณาจารย์ทุ่มเทเพื่อพัฒนาแนวคิดพื้นฐานสู่ความคิดเชิงนวัตกรรม นอกจากนี้คณะวิศวกรรมศาสตร์ทำงานเพื่อมุ่งเน้นเพื่อให้เกิดการพัฒนาสังคมไทยและสังคมโลก ปัจจุบันมีนักศึกษาระดับปริญญาตรี 3,637 คน นักศึกษาระดับบัณฑิตศึกษา 1,708 คน และนักศึกษาต่างชาติ 149 คน หลักสูตรปริญญาตรี 18 หลักสูตร (รวมหลักสูตรนานาชาติ 4 หลักสูตร) หลักสูตรปริญญาโท 19 หลักสูตร (15 M.Eng. และ 4 M.Sc. รวม 2 หลักสูตรนานาชาติ) และหลักสูตรปริญญาเอก 12 หลักสูตร (D.Eng. รวม 1 หลักสูตรนานาชาติ) นอกจากนี้คณะวิศวกรรมศาสตร์ยังประกอบไปด้วยภาควิชาเคมี โยธา คอมพิวเตอร์ ไฟฟ้า สิ่งแวดล้อม อุตสาหกรรม เครื่องกล, โลหะ เหมืองแร่และปิโตรเลียม นิวเคลียร์ สำรวจ ทรัพยากรน้ำ ซึ่งคณาจารย์ที่ทำงานอยู่ในคณะวิศวกรรมศาสตร์ประกอบด้วยศาสตรจารย์ 14 คน รองศาสตราจารย์ 97 คน ผู้ช่วยศาสตราจารย์ 111 คน และอาจารย์ 57 คน
ภาควิชาวิศวกรรมเคมีได้รับการจัดอันดับโลกอยู่ใน 100 อันดับแรก ในปัจจุบันภาควิชาวิศวกรรมเคมีมีนักศึกษาระดับปริญญาตรี 240 คน นักศึกษาระดับบัณฑิตศึกษา 250 คน นักศึกษาแลกเปลี่ยน 5 คน และนักวิจัยหลังปริญญาเอก 5 คน ภายใต้การดูแลของคณาจารย์ประจำประกอบไปด้วยศาสตราจารย์ 11 คน รองศาสตราจารย์ 8 คน ผู้ช่วยศาสตราจารย์ 6 คน และอาจารย์ 12 คน
Chulalongkorn University (CU) has been ranked Top University in Thailand for the 7th consecutive year by QS World University Rankings 2020 while maintaining its place in the top 50 universities in Asia.
Faculty of Engineering is Thailand’s oldest engineering school. It is ranked as the best engineering school in Thailand and one of the top engineering schools in Asia. Dedicated to developing basic concepts into innovative ideas, the faculty works for the betterment of the Thai and global societies. Currently there are 3,637 undergraduate students, 1,708 graduate students and 149 international students. 18 Bachelor programs (including 4 international programs), 19 Master’s programs (15 M.Eng. and 4 M.Sc. including 2 international programs) and 12 Doctoral Programs (D.Eng. including 1 international program) are offered. There are 14 professors, 97 associate professors, 111 assistant professors and 57 lecturers
Departments of Chemical, Civil, Computer, Electrical, Environmental, Industrial, Mechanical, Metallurgical, Mining and Petroleum, Nuclear, Survey, Water Resource. For more information please visit https://youtu.be/zsWQ3Rpk6zM. World Rank 1-100 includes: Chemical Engineering. Department of Chemical Engineering currently has 240 undergraduate students, 250 graduate students, 5 exchanged students and 5 postdocs under supervision of full-time academic staffs, 11 professors, 8 associate professors, 6 assistant professors and 12 lecturers.
Kingston University London (KU)
มีนักศึกษา 16,785 คน โดย 3,680 เป็นนักศึกษาต่างชาติจากกว่า 140 ประเทศ KU เป็นหนึ่งในมหาวิทยาลัยน้องใหม่ที่ติด 200 อันดับแรกของโลก (Times HE) และติดอันดับมหาวิทยาลัยชั้นนำ 50 อันดับแรกของสหราชอาณาจักร (Guardian) ความหลากหลายของนักศึกษากลายเป็นจุดแข็งของ KU และสิ่งนี้ได้รับการยอมรับด้วยรางวัล Guardian University Award (2017) ซึ่งเป็นรางวัลที่เกี่ยวข้องกับความเป็นเลิศด้านการสอนที่มีโครงสร้างของหลักสูตรที่ครอบคลุม
โครงการนี้ดำเนินการที่คณะวิทยาศาสตร์ วิศวกรรมศาสตร์และคอมพิวเตอร์ ที่สถาบันชีววิทยาศาสตร์ เภสัชศาสตร์และเคมี ที่นี่ได้ลงทุนในสิ่งอำนวยความสะดวกใหม่ ๆ ประกอบไปด้วยห้องปฏิบัติการเพื่อการสอนและการวิจัย โดยมีการลงทุนในสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ เกี่ยวกับวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี วิศวกรรมศาสตร์ และคณิตศาสตร์ เป็นมูลค่ารวม 6.8 ล้านปอนด์ จึงทำให้คณะเพียบพร้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกที่มีประสิทธิภาพอยู่ในระดับโลก โดยเทคโนโลยีนวัตกรรมและเทคโนโลยีขั้นสูงทำให้นักศึกษามีอิสระในการคิด มีความคิดสร้างสรรค์ และสามารถสร้างสิ่งใหม่ๆได้ ซึ่งเป็นการรวบรวมการวิจัยสหวิทยา การเสริมประสบการณ์ให้กับนักศึกษา และการส่งเสริมความร่วมมือในโครงการพัฒนาวิจัยและงานวิจัยเพื่ออุตสาหกรรม (Industry-Academia partnership)
โดยทางมหาวิทยาลัย Kingston มุ่งมั่นที่ทางด้านการวิจัยพื้นฐานและการวิจัยเชิงประยุกต์ งานนี้จะเป็นการเรียนรู้ที่มีการสร้างสภาพแวดล้อมให้เอื้อต่อการเรียนรู้ กลยุทธหลักของ KINGSTON คือมีการทุ่มเงินลงทุนหลายล้านปอนด์ไปในส่วนของการวิจัย และการเรียนรู้เกี่ยวกับกลยุทธ์ใหม่ ๆ จะเห็นว่าการวิจัยเป็นหัวใจสำคัญในการให้ความรู้และพัฒนานักคิดและนักปฏิบัติรุ่นต่อไป
Kingston University London (KU) has 16,785 students, of which 3,680 are international students from over 140 countries. KU is ranked among the top 200 young universities in the world (Times HE) and top 50 UK universities (Guardian). Diversity is a KU strength, and this was recognized with the Guardian University Award (2017) for teaching excellence for KU’s inclusive curriculum framework.
This project will take place in the Faculty of Science, Engineering and Computing, at the School of Life Sciences, Pharmacy and Chemistry. This School has invested in new facilities including laboratories for teaching and research, and the first stage of a recent £6.8million investment into STEM facilities is already complete. The Faculty is well equipped with worldclass facilities, providing students with innovative and advanced technology to have the freedom to invent, create and revolutionise their practice. It brings together interdisciplinary research, improving the student experience and encouraging industry-academia partnerships.
Kingston is committed to both fundamental and applied research. This work is nurtured in a supportive environment. As a core strategy, Kingston is making a multi-million pound investment in research, informed by our new strategy that places research at the heart of our mission to educate and develop the next generation of thinkers and doers.
ANAMAD Ltd.
UK micro-SME Advanced Nanostructured Materials Design and Consultancy Limited (ANAMAD) เป็นบริษัทธุรกิจใหม่ (startup) ที่ก่อตั้งโดยศาสตราจารย์ Sergey Mikhalovsky และ Dr. Matthey Illsley (MI) ในเดือนกุมภาพันธ์ 2018 โดยมีกิจกรรมหลักใน SIC 72190 ได้แก่ การวิจัยและการพัฒนาการทดลองในด้านวิทยาศาสตร์ธรรมชาติและวิศวกรรมศาสตร์ ตั้งอยู่ที่ Sussex Innovation Centre ซึ่งเป็นเครือข่ายศูนย์บ่มเพาะธุรกิจที่ช่วยให้ผู้ประกอบการในภูมิภาค ธุรกิจใหม่ และวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) เติบโต บริษัท ANAMAD เป็นสมาชิกของโครงการ SIGHT ซึ่งเป็นเครือข่ายของ SMEs ทางตอนใต้ของอังกฤษซึ่งได้รับการสนับสนุนจากกองทุนเพื่อการพัฒนาภูมิภาคยุโรป
ปัจจุบันบริษัท ANAMAD เข้าร่วมในโครงการ IAPP/18-19-119 กับทางประเทศไทย นอกจากนี้ Dr. Matthey Illsley มีประสบการณ์มากมายในการทำงานในด้านวิชาการ ด้านการแพทย์ และด้านอุตสาหกรรม เขาทำงานในโครงการที่ได้รับทุนสนับสนุนจากสหภาพยุโรปและสหราชอาณาจักรหลายโครงการโดยมุ่งเน้นที่การสังเคราะห์และการทดสอบคุณลักษณะของวัสดุที่มีโครงสร้างนาโน ในฐานะที่ปรึกษาภายนอก Dr. Matthey Illsley ได้จัดทำแนวทาง UKWIR Granular Activated Carbon (AC) ประจำปี 2559 นอกจากนี้ Dr. Matthey Illsley ยังดูแลโครงการ RAEng IAPP\1516\12 กับคาซัคสถาน ผลงานของ Dr. Matthey Illsley มีความหลากหลายทั้งยังได้ทำการออกแบบวัสดุปิดแผลแบบใหม่ที่มีชั้นถ่านกัมมันต์สำหรับการดูดซับสารที่มีกลิ่นไม่พึงประสงค์ อีกทั้ง Dr. Matthey Illsley ยังได้ทำการทดสอบความเป็นพิษและความปลอดภัยของวัสดุให้กับทางประเทศไทย ในการทำการวิจัยจะต้องมีการออกแบบ การสังเคราะห์และการทดสอบด้วยเครื่องมือและสิ่งอำนวยความสะดวกในห้องปฏิบัติการที่ได้ตามมาตรฐานเพื่อที่จะใช้ในการสังเคราะห์และวิเคราะห์วัสดุดูดซับที่สังเคราะห์ได้ ในส่วนนี้ทาง ANAMAD สามารถเข้าถึงสิ่งอำนวยความสะดวกเหล่านี้ได้ที่มหาวิทยาลัย Sussex, Kingston และ Portsmouth
The UK micro-SME Advanced Nanostructured Materials Design and Consultancy Limited (ANAMAD), is a start-up company founded by Prof Sergey Mikhalovsky and Dr Matthey Illsley (MI), in February 2018, with main activities in SIC 72190 – Other research and experimental development on natural sciences and engineering. It is based at the Sussex Innovation Centre, a business incubator network helping regional entrepreneurs, start-ups and SMEs to grow. ANAMAD is a member of the SIGHT programme – a network of SMEs in South of England supported by the European Regional Development Fund.
ANAMAD currently participates in IAPP/18-19-119 project with Thailand. MI has extensive experience of working in the academic, clinical and industrial environment. He worked on several EU and UK-funded projects focusing on synthesis and characterisation of novel nanostructured materials. As an external consultant, MI produced UKWIR Granular Activated Carbon (AC) guidance 2016. He managed the RAEng project IAPP\1516\12 with Kazakhstan, in which MI designed novel dressings with AC layer for adsorption of malodorous substances. MI will set up the toxicity and safety tests of novel materials at the Thai premises. For the design, synthesis and testing of adsorbents standard laboratory equipment and facilities will be required. ANAMAD has access to these facilities at Sussex, Kingston and Portsmouth Universities.
V.P.C GROUP
บริษัท V.P.C และโป่งแยงเกษตร (PY-VPC) เป็นหนึ่งในบริษัทชั้นนำ 5 อันดับแรกในอุตสาหกรรมสิ่งทอและสารย้อมสีในประเทศไทย บริษัทก่อตั้งขึ้นในปี 2528 ปัจจุบันมีพนักงานประมาณ 120 คน และมีมูลค่าการซื้อขายประมาณ 16 ล้านเหรียญสหรัฐต่อปี บริษัท V.P.C เป็นตัวแทนของแบรนด์ระดับโลกที่มีชื่อเสียงหลายแห่งในยุโรปและญี่ปุ่น เช่น CHT R.Beitlich, Emsland-Staerke GmbH, Schill&Seilacher GmbH เป็นต้น
นอกจากนี้ บริษัท V.P.C ยังเป็นผู้นำเข้าสินค้าสำเร็จรูปและวัตถุดิบ และขณะเดียวกันเราก็เป็นผู้คิดค้นสูตรใหม่ๆ ภายใต้แบรนด์ของตัวเอง นอกจากอุตสาหกรรมสิ่งทอแล้วยังได้มีการขยายขอบเขตธุรกิจไปยังภาคเกษตรกรรมประกอบไปด้วยการปลูกและการผลิตชา กาแฟ และถั่วแมคคาเดเมียในชื่อ “โป่งแยงการเกษตร” โดยมีพื้นที่เพาะปลูกรวมประมาณ 6,400,000 ตารางเมตร มีต้นแมคคาเดเมียมากกว่า 10,000 ต้น ตั้งอยู่บนภูเขาสูงของประเทศไทย คุณประภัทร์ พิมพ์ประพจน์ เจ้าของบริษัท V.P.C. และโป่งแยงการเกษตรมุ่งเน้นธุรกิจที่ให้ผลกำไรที่ยั่งยืนและคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม เหตุผลที่เลือกลงทุนปลูกต้นแมคคาเดเมียเนื่องจากต้นแมคคาเดเมียเป็นไม้ยืนต้นที่มีอายุยาวนานมันจะกลายเป็นผืนป่าอันทรงคุณค่าสำหรับทุกคน
Pong Yaeng Agriculture – V.P.C. Group (PY-VPC) V.P.C. Group is one of the big top five leading companies in the textile auxiliaries and dyestuff in Thailand. The company was established in 1985, now having approximately 120 employees and the turnover of about 16 million USD per year. V.P.C. Group has represented several famous global brands from Europe and Japan, such as CHT R.Beitlich, Emsland-Staerke GmbH, Schill&Seilacher GmbH and etc.
We are the importer of finished goods and raw materials, at the same time we are also the formulator under our own brands. Apart from textile industry, we have also extended our business scope to the agricultural field including plantation and production of tea, coffee and Macadamia nuts under the name “Pong Yaeng Agriculture”. The overall plantation area is about 6,400,000 square meters with more than 10,000 macadamia trees located on a high mountain of Thailand. Mr. Prapat Phimprapoat, the owner of V.P.C. Group and Pong Yaeng Agriculture is aiming for the sustainable business that are both profitable and environmental concerned. One of the reasons that he chooses to invest in Macadamias is because beside of the nuts, macadamia tree is a perennial plant that will last long as a valuable forest for everyone.
Prime Nanotechnology
บริษัท ไพรม์ นาโนเทคโนโลยี จำกัด (Prime Nanotechnology; PNT) เป็นบริษัทด้านนาโนเทคโนโลยีที่เชี่ยวชาญด้านการสังเคราะห์และการประยุกต์ใช้วัสดุนาโน บริษัท ไพรม์ นาโนเทคโนโลยีเป็นบริษัทที่ก่อตั้งโดยการแยกตัวออกจากหน่วยวิจัยของคณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มีการมุ่งเน้นไปที่การจำหน่ายวัสดุนาโนที่คิดค้นขึ้นภายใต้บริษัท ไพร์ม นาโนเทคโนโลยี โดยเฉพาะอนุภาคนาโนเงินและอนุภาคนาโนทองคำ นอกจากนี้บริษัทยังมีความเชี่ยวชาญในด้านการวิจัยและพัฒนานาโนเทคโนโลยีเพื่อให้บริการแก่ผู้ที่สนใจ ซึ่งเทคโนโลยีนาโนนี้สามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้มากหลากหลายอุตสาหกรรม อาธิเช่น อุตสาหกรรมเครื่องสำอาง อุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับของที่ใช้ในการดูแลบ้าน การดูแลสัตว์เลี้ยง การดูแลสุขภาพ และอุตสาหกรรมด้านการวิจัย สำหรับผลประกอบการในปีงบประมาณ 2018 อยู่ที่ 250,000 เหรียญสหรัฐ
Prime Nanotechnology (PNT) is a nanotechnology based company specializing in nanomaterial synthesis and applications. As a spin-off from a research unit at faculty of science, Chulalongkorn University (CU), we focus on the commercialization of our patented nanomaterials especially silver nanoparticles and gold nanoparticles. We also offer our expertise in nanotechnology research and development as a service to interested businesses where nanotechnology can make a great difference. Our markets include cosmetics, homecare, pet care, health care and research industries. Current employment is 5 and turnover for 2018 fiscal year is $250,000.
Bangchak Corporation
บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (Bangchak Corporation) เป็นบริษัทพลังงานของไทยที่มีพนักงานมากกว่า 1,200 คนและมูลค่าการซื้อขาย 141,000 ล้านบาท (ณ วันที่ 9/2562) ธุรกิจหลักของบริษัทคือการกลั่นปิโตรเลียมเพื่อผลิตสินค้าที่มีมาตรฐานสูง เช่น น้ำมันเบนซินและดีเซล โดยมีกำลังการผลิตปัจจุบันอยู่ที่ 120,000 บาร์เรลต่อวัน บางจากฯ จำหน่ายสินค้าผ่านสถานีบริการน้ำมันกว่า 1,200 แห่งในประเทศไทย นอกจากนี้บางจากฯ ยังได้ขยายธุรกิจไปยังธุรกิจที่ไม่ใช่น้ำมัน เช่น ร้านกาแฟและร้านสะดวกซื้อ โรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน โรงไฟฟ้าเชื้อเพลิงชีวภาพ โรงงานผลิตไบโอดีเซล 1 แห่ง และโรงงานไบโอเอธานอล 4 แห่ง และทรัพยากรธรรมชาติ ได้แก่ เหมือง E&P และเหมืองลิเธียม
เป้าหมายของบริษัทคือการเพิ่มความมั่นคงด้านพลังงานของประเทศ ในขณะที่การขยายธุรกิจใหม่เพื่อความต่อเนื่องและความยั่งยืนขององค์กร โดยบางจากฯ ได้จัดตั้งสถาบันนวัตกรรมและบ่มเพาะธุรกิจ (Initiative and Innovation Center; BiiC) เพื่อลงทุนในธุรกิจกลุ่มอุตสาหกรรมอนาคต (new S-Curve) ผ่านธุรกิจสร้างใหม่ (startup) การบ่มเพาะธุรกิจ (incubation) บริษัทในเครือขององค์กรขนาดใหญ่ (Corporate Venture Capital; CVC) และ การวิจัยและการพัฒนา (R&D) ที่ R&D-BiiC ภารกิจของเราคือการเริ่มต้นโครงการวิจัยและพัฒนา และสร้างนวัตกรรมสีเขียวโดยมุ่งเน้นที่งานเกี่ยวกับสารเคมีชีวภาพ (bio-based chemicals) พลาสติกชีวภาพ (bioplastics) และเทคโนโลยีสาหร่าย (algae technology)
Bangchak is a Thai energy company with more than 1,200 employees and turnover of 141,000 million baht (as of 09/2019). The company’s core businesses are petroleum refining to produce high-standard products, i.e. gasoline and diesel, with a current production capacity of 120,000 barrels per day. Bangchak distributes the products through more than 1,200 service stations in Thailand. Bangchak has also been expanding its businesses to non-oil businesses – coffee shops and convenience stores, renewable power plants, bio-fuel plants – one biodiesel plant and four bioethanol plants, and natural resources – E&P and Lithium mine.
Our goals are to enhance national energy security while stepping into new business ventures for corporate continuity and sustainability. Bangchak established Bangchak Initiative and Innovation Center (BiiC) for investing in new S-curve businesses via startup and incubation, corporate venture capital (CVC) and R&D. At R&D-BiiC, our mission is to initiate R&D projects and create greennovation focusing on the areas of bio-based chemicals, bioplastics and algae technology.
PHEEDOO Company Limited
บริษัท ภีดู จำกัด (PHEEDOO Company Limited) ก่อตั้งขึ้นในปี 2555 จุดมุ่งหมายคือเพื่อประยุกต์ใช้เทคโนโลยีขั้นสูงในการวิจัยและพัฒนา พัฒนากระบวนการ และนำร่องการผลิต และการส่งต่อองค์ความรู้นี้ให้กับบริษัทที่ต้องการ เช่นโรงกลั่นชีวภาพ (bio-refinery) เทคโนโลยีการแยกสาร (separation technology) การเปลี่ยนแปลงสสารโดยกระบวนการทางชีวภาพ (bio-conversion) เซลลูโลสที่มีคุณลักษณะพิเศษ (special cellulose) และบรรจุภัณฑ์ชีวภาพ (bio-packaging) กระบวนการหลักของเราคือการผลิตเยื่อกระดาษและนาโนเซลลูโลส รวมถึงการประยุกต์ใช้นาโนเซลลูโลสในด้านต่างๆ บริษัทภีดู มีพนักงาน 10 คนและมูลค่าการซื้อขายอยู่ที่ 100,000 เหรียญสหรัฐต่อปี บริษัทได้รับการสนับสนุนจากสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (National Innovation Agency: NIA) สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (National Science and Technology Development Agency: NSTDA) และหน่วยงานอื่นๆ ในประเทศไทย
นอกจากนี้บริษัทภีดูยังมีความร่วมมือที่ดีกับโรงงานผลิตเยื่อกระดาษ โรงงานผลิตกระดาษ โรงงานผลิตกระดาษแข็ง และโรงงานผลิตน้ำตาลเป็นอย่างดี อีกทั้งยังสามารถร่วมมือกับพันธมิตรเหล่านี้เพื่อศึกษาข้อมูลเชิงลึก ความรู้ และยังสามารถขอวัตถุดิบที่โรงงานดังกล่าวผลิตเพื่อนำมาใช้ในการทดลองได้
PHEEDOO Company Limited (PHEEDOO) PHEEDOO was founded in 2012 in order to apply advance technology into research and development, process development and pilot manufacturing and sales of bio-refinery, separation technology, bio-conversion, special cellulose, and bio-packaging. Our mainstream processes are paper pulp and nanocellulose production including the applications of nanocellulose in various fields. PHEEDOO has 10 employees and turnover of USD 100,000 per year. The company is supported by the NIA (National Innovation Agency), NSTDA (National Science and Technology Development Agency) and other agencies in Thailand.
PHEEDOO has very good connections with pulp manufacturers, paper and board manufacturers and sugar mills and able to cooperate with its partners for in-depth information, know-how and request of raw materials for experimental purposes.
Partner of Laboratory
- Chulalongkorn University
Dr Nattaporn Tonanon
Email: nattaporn.t@chula.ac.th
- Kingston University
Dr Rosa Busquets
Email: r.busquets@kingston.ac.uk
- ANAMAD Ltd, UK
Prof Sergey Mikhalovsky
Email: sergeymikhalovsky@gmail.com
- Pong Yaeng Agriculture/V.P.C. Group Co.,Ltd.
Mr Phanuwat Pimpapoat
Email: phanuwat.p@vpc-group.com
- Prime Nanotechnology
Mr Nutthaphol Khupsathianwong
Email: Nutthaphol.k@gmail.com
- Bangchak Petroleum
Dr. Patcharida Chouwatat
Email: patcharida@bangchak.co.th
- Pheedoo Co., Ltd
Mr Phee Limpidepa
Email: pheelk@gmail.com
Department of Chemical Engineering, Chulalongkorn University, Bangkok 10330,Thailand
Email: nattaporn.t@chula.ac.th Tel: 086 629 1818 fax: 02 218 6877